แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Blog แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Blog แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2552

Web Site กับ วิวัฒนการยุค Web 2.0

         เอกสารในรูปแบบ HTML เป็นเอกสารที่มีคุณสมบัติดี ๆหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ สามารถแสดงเอกสารออกมาได้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่น ไม่ว่าหน้าต่างในเวปบราวเซอร์จะมีขนาดเต็มจอ ย่อ เล็ก หรือ ใหญ่ อย่างไร ข้อมูลในเอกสารก็จะปรับตัวให้แสดงในหน้าต่างอย่างครบถ้วนและเหมาะสมกับสภาพขนาดการย่อ ขยาย ของตัวแสดง(Web Browser)อยู่เสมอ โดยที่จะไม่ยอมให้ส่วนใดส่วนหนึ่งถูกบดบัง ไม่เหมือนกับเอกสารรูปแบบอื่นที่มีโอกาสที่ข้อมูล ณ ตำแหน่งของข้าง ข้างบน หรือข้างล่าง อาจโดนบัง(ไม่สามารถแสดง เมื่อมีการย่อ ขยาย หน้าต่างการแสดง)
         เวปไซต์หลาย ๆ แห่งมีการแสดงผลที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ แถมมีระบบการอำนวยความสดวกครบครัน ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับนักออกแบบเวปไซต์ว่าอยากให้เวปตัวเองออกมาอย่างไรให้ผู้เข้าชมมีการตอบรับที่ดี
         หลายคนฝันที่จะได้เวปไซต์ที่สวยงาม มีคนเข้าชมเป็นจำนวนมาก และอยากให้เวปไชต์ของตัวเองมีบริการที่หลากหลาย ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก เรามีเครื่องมืออำนวยความสดวกมากมายให้เลือกใช้ขึ้นอยู่กับไอเีดียของแต่ละคน หรืออาจจะพูดได้ว่าฝันให้ไกลไปให้ถึง
         ในยุคแห่ง web 2.0 นี้การมีเวปไซตส่วนตัวไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่เหมือนเมื่อสี่ห้าปีก่อนที่ คนที่จะมีเวปได้ต้องเป็นคนที่มีความรู้มาก และมีทุนในการเปิดเวปไซต์ แต่เดียวนี้ บุคคลทั่วไป แม้แต่นักเรียนนักศึกษา ก็มีเวปไซต์ส่วนตัวกันทั้งนั้น ซึ่งเราสามารถเห็นได้ทั่วไปในลักษณะ เวปบล๊อก ซึ่งเป็นเวปไซต์ที่ส่วนใหญ่สามารถสร้างได้ฟรี และมีเครื่องมือที่จำเป็นให้ครบ โดยที่เจ้าของเป็นคนสร้างเนื้อหาบนของตัวเองขึ้นมา แล้วอัปโหลดขึ้น เวปบล๊อกของตัวเอง ถ้าเป็นเมื่อหลายปีก่อนบอกได้คำเดียวว่า ยุ่งยาก ลำบาก &
         การทำเวปไซต์ สมัยก่อน ต้องเช่า โฮสท์ เพื่อเก็บข้อมูลตัวเอง ต้องสร้างเวปไซตท์ในรูปแบบเอกสาร HTML ด้วยตัวเอง โดยใช้ โปรแกรมแก้ไขข้อความ (Text Editor) ทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ ข้อมูลจึงค่อนข้างดิบ และไม่ทันสมัย ใช้เวลานานกว่าจะได้เอกสารพร้อมภาพประกอบ ที่จัดหน้าอย่างสวยงามออกมาสักหน้า นอกจากนั้น ก็ต้องรู้จักโปรแกรมถ่ายโอนข้อมูลขึ้นสู่เซิิฟเวอร์ (FTP) เพื่อที่จะอัพโหลด เอกสารของตัวเองไปเผยแพร่ นี่ยังไม่รวมการทดสอบ แก้ไข ซึ่งต้องใช้แรงกาย แรงใจเป็นอย่างมาก จะมาอัพเวปทุกวัน วันละหลาย ๆ เนื้อหา แทบเป็นไปไม่ได้เลย อยากมากก็อาทิตย์ละ หน้าสองหน้า
         ยุคอินเตอร์เน็ต เฟื่องฟู เวป 2.0 ก็เข้ามาทำให้มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เป็นไปในทางที่ดีขึ้น คนทั่วไปซึ่งเมื่อก่อนเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าชมเนื้อหาในเวปไซต์ แต่เดี๋ยวนี้ คนเหล่านั้นสามารถเป็ผู้สร้างเนื้อหาให้ บุคคลอื่นมาเข้าชมเนื้อหาเราได้ สิ่งที่กล่าวนี้ไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น สิ่งต้องมีคือ การเข้าถึง อินเตอร์เน็ต และความคิดดี ๆ ในการถ่ายทอดเนื้อหาที่ตัวเองถนัึด จากนั้นก็จะมีคนเข้ามาดูเนื้อหาที่เราเป็นผู้สร้างเอง นอกจากนั้นยังเปิดให้ผู้เข้าชมสามารถที่จะใส่การวิจารณ์ (Comment) ให้กับเนื้อหาของเราได้อีกด้วย ในขณะที่เราก็เป็นผู้ชมคนหนึ่งและสามารถเข้าไปให้คำวิจารณ์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับเจ้าของเนื้อหาได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนนั้น เราสามาถดูเนื้อหาได้อย่างเดียว ชอบ ไ่ม่ชอบ หรือรู้สึกอย่างไรก็สื่อถึงคนผลิตเนื้อหาไม่ได้
         สามารถสรุปได้ว่า ยุคสมัยนี้ เวปไชต์ใน อินเตอร์เน็ต เป็นยุคที่ผู้ชมสารถสร้างเนื้อหาขึ้นมาเอง และแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันได้เกิดเป็นสังคมย่อย และใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีเนื้อหามากมายในอินเตอร์เน็ต และที่สำคัญการสร้างเวปไซต์ในโลกไซเบอร์นั้นก็ง่ายดายเสียเหลือเกิน โดยผ่านบริการยอดฮิตอย่างเวปบล๊อก เราจึงมีโอกาสได้สัมผัสเนื้อหาหลากหลายแบบมากมาย ที่ใหม่สด เสมอ

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2552

How to to be a good Blog.

         ได้ไปเจอหัวข้อบล๊อก ของ นพ. วัลลภ พรเรื่องวงศ์ เรื่อง "11 วิธี(tips)เขียนบล็อก(blog)สบายๆ สไตล์เรา [C]" ซึ่งน่าสนใจมาก ซึ่งในบล๊อกของท่่าน เขียนถึงวิธีดี ๆ ในการเขียนบล๊อก(ส่วนตัว)ของเรา ให้เป็นที่รู้จักหรืออยากเข้ามาอ่าน.. สามารถดูได้ตามที่มาครับ
         และในอีกแง่มุมของ หก หลักการ ทำอย่างไรถึงจะเขียน บล๊อกออกมาให้ตรึงตรา ตรึงใจ ซึ่งก็น่าอ่านไม่ใช่น้อย สำหรับบล๊ิอกเกอร์หน้าใหม่อย่างผม.. ต้องนำมาปรับปรุงกับบล๊อกของตัวเองซะแล้วครับ ใครอยากอ่านก็ ตามที่มานี้ครับ (จากบล๊อกเดียวกัน)

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

เจิมบทความแรก ใน บล๊อก แรกของตัวเอง

สวัสดีครับ ผมกระทาชายนาย freemanx ครับมาประเดิมเวป Blog แรกของตัวเองครับผมก็วางแผนการมาก่อนหน้านี้ประมาณ สองเดือนว่าอยากมีเวป Blog แบบที่ชาวบ้านเขามีสักเวปหนึ่งพยายามหาเวลาศึกษาอยู่หลาย ๆ เพลา แต่ก็ไม่ได้สักที มีอันให้ไปทำอย่างอื่นตลอด

ความสนใจอยากทำ Blog ของตัวเองเพราะว่า ในระยะเวลาประมาณ 6 เดือนก่อนหน้านี้ ผมหันไปสนใจกับลินุ๊กส์ (Linux) ที่มีชื่อแปลก ๆ แกมเท่ห์ว่า อูบุนตู (Uuntu) เพราะเคยสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าอย่างไร ชาตินี้ขอศึกษา ลินุกส์ สักครั้งก่อนตาย ซึ่งที่ผ่านมาเห็นลินุ๊กส์นั้นมีแต่ในตำราภาษาอังกฤษ ปวดหัว ที่สำคัญราคา "แพง" ได้ใจ - -" เลยมีแต่คำว่า "เอาไว้ก่อน" ให้กับตัวเอง

วันหนึ่งก็ได้ไปเดินแถวร้านขายหนังสือในห้าง... อุ๊ย !! แม่เจ้า.. ลินุ๊กส์ เพื่อมวลมนุษย์ชาติ อูบุนตู เล่มนิดส์เดี๊ยะ.. สองร้อยกว่าบาท.. -.- เลยตัดสินใจ เอาละวะอย่างน้อยก็ไม่ใช่พันกว่า เลยลองเอามาศึกษา ปรากฏว่า เลิกครับ.. ลินุ๊กส์บ้าอะไร ดูหนังวีซีดี ก็ไม่ได้ (เล่นเกมส์ออนไลน์ไม่ได้ ไม่ได้ว่า)แต่ลงเสร็จ ดูหนัง ฟัง เอ็มพีสาม ไม่ได้ นี่แอบเคืองครับ มันให้ต่อเน็ตให้โหลดวุ่นวาย โหลดมาเสร็จก็ยังต้องทำอย่างนี้อย่างนั้นอีก..ไหนบอกพร้อมใช้..พูดมาได้.. -*- ! เลิกคบจบกันลินุ๊กส์อูบุนตู

ในที่สุดก็ได้มาพบทางสวรรค์ www.ubuntuclub.com ครับพี่น้อง เลยเอาใหม่อีกรอบ และได้มีโอกาสได้เจอกับ สุดยอด อูบุนตูทีค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้ใช้จริง ๆ ชื่อ Ubuntu PE ครับ

และแล้วลินุ๊กส์ก็ไม่งอแงกับผมอีกต่อไป.. ส่วนภาระกิจต่อไปก็ศึกษาตามที่เราอยากรู้ต่อไปครับ เป้าหมายคือ ไล่ตามฝันวันวานที่ว่า ตัวเราต้องเก่งลินุกส์ให้ได้ เย้ !! สู้ ๆ นะตัวเรา

ปล. ลำบากมากเลยครับกับแค่การเขียนบทความผมให้มันจัดย่อหน้า